สำหรับใครที่มีอาการ ปวดท้อง เจ็บคอ ท้องผูก หรืออาการใดๆทั้งหลายทุกคนอาจจะเคยเป็นกันมาแล้วเมื่อเวลาปวดก็จะหาซื้อยามากินเพราะคิดว่ามันเป็นการรักษาที่เร็วมากที่สุดทั้งนี้คุณลองดูสิ่งรอบบ้านตัวเองว่ามีพืชสมุนไพรอะไรบ้างซึ่งมันอาจจะช่วยทำให้อาการที่เรานั้นเป็นอยู่ดีขึ้นก็เป็นได้และจะมีอะไรนั้นไปดูกันเลย
ซึ่งในวันนี้เราก็ได้มีข้อเรียกร้องกันเข้ามาเยอะก็คือ กวาวเครือ หลายคนยังงง และสงสัยกันอยู่ใช่หรือไม่ว่ากวาวเครือนั้นมันคืออะไรมีคนสงสัยกันเยอะบางช่วงก็ฮิตมากบางช่วงก็หายไปกวาวเครือนี้บอกเลยว่าเป็นของไทยๆเราเองนี่แหละที่เราได้พบเจอในเมืองไทยเยอะมาก แต่พวกฝรั่ง พวกญี่ปุ่นได้เอาไปวิจัยมากจนมันทำให้เขานั้นได้รู้ถึงคุณภาพเขาได้แอบเอาไปจดสิทธิบัตรเขาแอบไปจนเป็นของเขาเองนี่คือสิ่งที่อยากจะฝากทาง
ภาครัฐบาลเอาไว้ว่าของเหล่านี้ของไทยๆในบางครั้งเราอาจจะต้องมีหน่วยงานที่จะต้องเข้ามาดูแลกันให้มากยิ่งขึ้นเราก็จะเป็นอีกหนึ่งในเรี่ยวแรงที่จะช่วยในการดูแลเรื่องสูตรสมุนไพรของไทยๆให้มากขึ้น
กวาวเครือนั้นจริงๆแล้วมันมีอยู่หลายอย่างถ้าเราจะเอาตามตำรากันเลยหมอเรียนมาหมดทุกอย่าง หมดผี หมอฝรั่ง หมอไทย หมอจีน หลสงอนุสารสนุทรเป็นบิดาแห่งสมุนไพรเป็นปรมาจารย์ไม่รู้ว่าบิดาไหมท่านก็ยังได้บอกอีกว่ากวาวเครือนั้นจริงๆแล้วมีอยู่4ชนิด หนึ่ง กวาวเครือขาว สองกวาวเครือแดง แรงขึ้น สามกวาวเครือดำ สี่แรงที่สุด กวาวเครือมอ ต้นมันจะเหมือนกับกวาวเครือดำ แต่แรงกว่าอีก
ซึ่งทั้งหมดสี่อย่างนี้ก็คือกวาวเครือที่เรานั้นได้พบอยู่ในเมืองไทยชนิดที่เรานั้นได้ยินกันบ่อยๆสุดส่วใหญ่แล้วที่หมอจะลงไปดูนั้นจะเป็นชนิดที่เรียกว่ากวาวเครือขาวตั้งแต่โบราณผู้หลักผู้ใหญ่เขาบอกว่ากวาวเครือนั้นมันเหมือนกับยาอายุวัฒนะกินแล้วร่างกายแข็งแรงผิวพรรณสดใสบำรุงหน้าอกผมหงอกกลายเป็นดำเดินเหินดีเดินคล่องไม่ปวดเมื่อย”แต่วัยรุ่นอายุน้อยห้ามรับประทาน”
เนื่องจากนีที่เขาห้ามววัยรุ่นที่มีอายุน้อยรับประทานเพราะอะไรพอเราสั่งทีมแพทย์ได้มีการมอบหมายงานขึ้นว่าให้ไปดูว่ากวาวเครือนั้นมีดีอะไรสุดท้ายก็มาเจอและได้รู้แล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร
กวาวเครือนั้นดังในเรื่องของสรรพคุณตัวหนึ่งที่มีสารในนั้นที่ดูคล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิงเขาเรียกกันว่าไพโตรเอสโตรเจนหรือสารอะไรก็ตามที่อยู่ในธรรมชาติที่มันดูคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงในมนุษย์เขาเรียกไพโตเอสโตรเจนในกวาวเครือมีสารนี้