คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณเอาแต่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆในแต่ละวันนั้นหรือการที่คุณนั้นเอาแต่เฝ้าต้องมองโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของคนอยู่ตลอดเวลาจะทำให้คนนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของทางด้านสายตาเช่นอาการตาพร่ามัวอาการปวดหัวอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
ตื่นมาแต่อาการปวดแสบสายตาหรือการที่สายตาของคนนั้นอาจจะสู้แสงไม่ได้สิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นเกิดขึ้นจากการที่คุณนั้นทำตัวของคุณเองซึ่งอาการที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นอาการของโรคอย่างหนึ่งซึ่งเราเรียกโรคชนิดนี้ว่าโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมและแน่นอนว่าหากเราไม่ต้องการที่จะเป็นโรคดังกล่าวเราก็ควรจะต้องมีการหาทางวิธีป้องกันไม่ให้โรค
ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับเราซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่สามารถที่จะทำการยกเลิกการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือเราอาจจะยกเลิกการไม่สนใจโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนได้อย่างแน่นอนเพราะทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนหรือแม้แต่แท็บเล็ตนั้นปัจจุบันคือปัจจัยหลักที่เราต้องใช้ในการทำงานและการดำรงชีวิตของเราแต่เราก็สามารถหาวิธีการป้องกันที่จะทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคชนิดนี้ได้น้อยที่สุดได้ดังนั้นมาดูกันว่าเราสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
อันดับแรกเลยก็คือเราจะต้องมานั่งดูว่ามือถือของเราหรือคอมพิวเตอร์ของเรานั้นมีการปรับแสงไว้สว่างจ้ามากเกินไปหรือไม่รวมถึงการตั้งคอมพิวเตอร์ในโต๊ะทำงานของเรานั้นอยู่ในท่าที่เหมาะสมหรือไม่ห่างจากสายตาเรามากแค่ไหนซึ่งโดยมาตรฐานแล้วเราควรจะมีการตั้งคอมพิวเตอร์ให้อยู่ห่างจากระดับสายตาของเรานั้นประมาณ 28 นิ้วต่ำสุด
ต้องไม่เกิน 20 นิ้วและแป้นพิมพ์ต้องมีการทำองศากับมือของเราโดยให้ข้อศอกของเรานั้นสามารถตั้งฉากได้เวลาพิมพ์ตัวหนังสือนั้นก็ควรจะต้องมีการตั้งตัวหนังสือให้มีขนาดใหญ่เพียงพอไม่ควรเล็กมากจนเกินไปจนต้องใช้สายตาในการเพ่งมองสิ่งต่างๆเหล่านี้หากเรามีการโฟกัสนานมากเกินไปก็จะทำให้เราปวดตาหรือตาของเราเกิดอาการเมื่อยล้าได้
อย่างไรก็ตามการที่เรานั่งทำงานอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานต่อเนื่องกันเกิน 3 ชั่วโมงขึ้นไปก็จะทำให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของอาการปวดสายตาเมื่อยตาหรือแสบตาได้เช่นเดียวกันดังนั้นหลักการที่ถูกต้องในการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนนั่นก็คือเราควรจะใช้งานประมาณสัก 20 นาทีหลังจากนั้นควรจะมีการพักสายตาด้วยการหักเหไปใช้อย่างอื่นโดยใช้สายตาโฟกัสไปที่เรื่องอื่นเช่นเราอาจจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆสักประมาณ 5 นาทีถึง 10 นาที
หรือเราจะใช้เป็นวิธีการพักสายตาด้วยการหลับตาส่งซัก 5 นาทีหรือ 10 นาทีก็ได้เพื่อให้สายตานั้นเราได้มีโอกาสพักบ้างและที่สำคัญเราควรจะมีการกระพริบตาบ่อยๆ หรือถ้าเรา รู้สึกว่าตาเราแห้งควรใช้น้ำตาเทียมหยุดตาบ้าง และที่สำคัญควรไปหาจักษุแพทย์เพื่อวัดค่าสายตาบ่อยบ่อยด้วย เพื่อที่หากตาของเรามีความผิดปกติจะได้รักษาได้ทัน
สนับสนุนโดย next88